...กรุงเทพฯ ในเย็นย่ำของวันที่ฝนพรำโปรยปราย... หลังจากที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เสร็จสิ้นจากธุระปะปังแล้วก็รู้สึกว่า ห้วงอารมณ์แบบนี้มันน่าที่จะไปหาอาหารอร่อยๆกินควบคู่ไปกับเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมฟังดนตรีสบายๆ ภายใต้บรรยากาศร้านที่ชวนนั่ง มันก็คงจะเข้าท่าดีไม่น้อย
วันนั้นเราจึงชักชวนเพื่อนที่รู้ใจ บึ่งรถไปหาร้านอาหารโดนใจแถวถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งถือเป็นย่านรวมร้านอาหารที่กำลังมาแรงย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ เนื่องจากร้านแถวนั้นมีมาก แถมแต่ละร้านต่างก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ทำให้เราต้องขับรถวนอยู่ 2 รอบก่อนที่จะตัดสินใจเลือกร้าน "Parking Toys" เหตุผลที่เราไปปิ๊งเอากับร้านนี้ เข้าก็เพราะว่า บรรยากาศร้านที่มองผ่านกระจกเข้าไป มันน่านั่งเอามากๆ
เมื่อเดินเข้าไปก็ไม่รู้สึกผิดหวังแต่อย่างใด เพราะบรรยากาศร้านนั้นโปร่ง โล่ง สบาย มีชั้นลอยอยู่ด้านหนึ่งของร้าน เหมาะมากสำหรับผู้ที่ชอบความโรแมนติก ส่วนที่โดดเด่นอันกลายเป็นเสน่ห์ของ"Parking Toys" ก็คือของตกแต่งร้านและเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งอยู่ในร้าน โดยของพวกนี้ทางเจ้าของร้านเขาใช้เวลาเก็บสะสมมาเป็นนานปี ก่อนที่จะนำมาจัดวางให้ลูกค้าได้นั่งดื่มกินกัน
ในส่วนของดนตรีร้านนี้นักดนตรีเขาก็เล่นได้น่าฟังเอามากๆ แถมมีให้ฟังหลากหลายสไตล์ ทั้งป็อบ ร็อค โฟล์ค บลูส์ แจ๊ซ อย่างวันที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ไปนั้นฝนตกพรำๆ วงดนตรีวงแรกที่เปิดเป็นแนวอะคูสติกนั้นพี่แกช่างเข้าใจเลือกเพลงมาเล่นเสียจริง เพราะแต่ละเพลงมันช่างเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศยามราตรีที่ฝนโปรยปรายเสียนี่กระไร
ทีนี้ก็มาถึงอาหารที่คนชอบกินอย่างเรานั้นถือว่าเป็นหัวใจหลักของร้านอาหาร ซึ่งรสชาตินั้นก็ล้วนแต่เด็ดถึงเครื่องถึงรสทั้งนั้น เริ่มกันที่อาหารเบาๆเรียกน้ำย่อยในกระเพาะให้ตื่นตัวอย่าง ปลาหมึกทรายทอง (100 บาท) ทางร้านนำเอาปลาหมึกมาแร่เป็นชิ้นบางๆ ก่อนนำไปคลุกเคล้ากับเครื่องปรุง แล้วจึงชุบแป้งทอดให้กรอบ พร้อมโรยงาเพิ่มความหอม เมื่อส่งปลาหมึกเข้าปากแล้วเนื้อจะกรอบนุ่ม เคี้ยวเพลิน จะกินเป็นกับแกล้มหรือกินเล่นเปล่าๆก็เยี่ยมทั้งนั้น
จากนั้นทั้งเมนูกับข้าวและกับแกล้มก็เริ่มทยอยส่งขึ้นโต๊ะ ซึ่งแต่หน้าตาแต่ละอย่างต่างก็ล้วนแต่น่ากินทั้งนั้น เราขอเลือกเปิดด้วย ลาบวุ้นเส้น (80 บาท) มีให้เลือกตามความชอบว่าจะกินลาบหมูหรือลาบไก่ วุ้นเส้นคลุกเคล้ากับเครื่องลาบม้วนมาเป็นก้อนกลมๆขนาดพอคำใหญ่ ลาบนั้นแซบถึงเครื่องมาก ซึ่งเมื่อกินกับวุ้นเส้นที่เหนียวนุ่ม รสชาติมันจะไปเสริมกัน กินมันปากนัก
แกงเลียงกุ้งสด (120 บาท) เสิร์ฟมาในหม้อดินร้อนๆ ควันโชยกรุ่นมาแต่ไกล น้ำแกงนั้นเข้มข้นมากๆ ซดกินร้อนๆถึงใจนัก ส่วนผักแกงเลียงก็ใส่มากันแบบครบเครื่อง ทั้งเห็ด บวบ ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน นอกจากนี้ยังมีกุ้งสดๆเนื้อแน่นใส่มาให้เราเคี้ยวกินแบบหนุบหนับปากอีกด้วย เมนูถัดต่อชื่อแปลกเก๋ไก๋ ยำเวสป้า (120 บาท) เป็นการนำเอาของทะเลสดๆอย่าง ปลาหมึก กุ้ง (แช่น้ำปลา) หอยนางรม สดๆ รวกแล้วราดด้วยน้ำยำซีฟู้ด เสิร์ฟเคียงคู่กับผักแกล้มและเครื่องเคียง ซึ่งเมื่อตักเข้าปากแล้ว รสชาติแซ่บจัดจ้านถึงใจเอามากๆ
จานสุดท้ายก็ชื่อแปลกอีกเหมือนกัน คาร์บิวคู่ (200 บาท) สั่งจานนี้ต้องขอบอกว่าสุดคุ้ม มาแบบทูอินวัน โดยทางร้านนำปลาช่อน 1 ตัวมาแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ในครึ่งแรกเป็นปลาทอดกรอบราดด้วยน้ำยำโบราณครบเครื่องเหมือนเมี่ยงคำ อีกครึ่งที่เหลือเป็น ปลามานึ่งแล้วราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เรียกได้ว่าปลาช่อนตัวนี้กินกันเพลินในความอร่อย 2 แบบ 2 รสชาติ
กินมาก็หลายเมนูแต่คงไม่ครบไปหมดเสียทุกอย่าง เพราะอาหารของที่นี่เขามีมากกว่า 100 รายการ ให้เลือกสั่งกินกันแบบไม่หวั่นไม่ไหว นอกเหนือจากที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ได้ลิ้มลองในคืนวันฝนพรำแล้ว ทางร้านก็เมนูเด่นๆที่น่าสนใจอีกอย่างเช่น ยำหัวเทียนบอด ลาบเป็ดกรอบ ข้าวผัดปลาสลิด ข้าวอบหม้อดิน และอีกสารพัดเมนูที่เป็นอาหารรสชาติเข้มข้นจัดจ้านแบบไทยๆ ซึ่งมันก็ไปกันได้ดีกับร้านสไตล์ Pub&Restaurant อย่าง "Parking Toys"
สำหรับผู้ที่อยากพิสูจน์บรรยากาศและรสชาติความอร่อยของร้านนี้ ก็สามารถไปตระเวนกินได้ โดยร้าน"Praking Toys"ตั้งอยู่ที่ถนนเกษตร-นวมินทร์ ระหว่างแยกเสนากับสตรีวิทย์ หรือถ้ามาทางรามอินทราก็ตรงมาสุดซอยไมยราพ ร้านอยู่ติดริมถนนใหญ่ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 - 02.00 น. โทร. 0-2907-2228
ข้อมูลจาก
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ต้องมาร้านนี้
ส่วนดนตรีเขาจะเปลี่ยนแนวทุกวัน
อาหารก็ใช้ได้
ลองมาดู ไม่ผิดหวัง จ้า.... {icone307}
คืนนี้เจอกานน้า
ใครเหงา
เศร้า
และอยากสนุก
มาเจอกานนะค่ะ
O_O ...............^_^ {icon1}