ข้อแนะนำ!!! ในการเลือกหลังคาเหล็ก

(อ่าน 2827/ ตอบ 2)

หิวพิซซ่า

ข้อแนะนำ!!! ในการเลือกหลังคาเหล็ก

1. ความหนา (Thickness)

BMT = Base Metal Thickness เป็นความหนาของเหล็กที่แท้จริงก่อนชั้นเคลือบ จะมีใบรับรองความหนาจากผู้ผลิต เป็นความหนาที่ใช้ในการอ้างอิงตามมาตรฐานสากล มีความผิดพลาดน้อย

TCT = Total Coating Thickness เป็นความหนา หลังจากการเคลือบผิวโลหะ มักจะได้จากการคำนวณ หรือประมาณ ที่ไม่ได้จากการวัดความหนาจริง มีความผิดพลาดพอสมควร มักจะใช้อ้างอิงมากที่สุดในวงการ Metal Sheet ของประเทศไทย

TPT = Total Paint Thickness เป็นความหนาที่ใช้ของ เหล็กเคลือบสี เท่านั้น เป็นการรวมทั้งหมด ของ ความหนาเหล็ก ชั้นเคลือบโลหะ และความหนาสี มักจะเป็นตัวเลขจากการประมาณ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมใช้ เพราะมีความผิดพลาดสูง

1. ความหนา 0.30 mm (BMT) เหมาะสำหรับงานหลังคาขนาดเล็ก งานผนัง ประหยัด เช่นโรงรถ กันสาด ที่มีระยะแป ไม่เกิน 1.2 เมตร

2. ความหนา 0.35-0.40 (BMT) เหมาะสำหรับ งานหลังคาอาคารขนาดปานกลาง และงานผนังทั่วไป

3. ความหนา 0.42 (BMT) เหมาะสำหรับ งานหลังคามาตรฐาน ขนาดกลางถึงใหญ่ เป็นความหนาที่แนะนำสำหรับงานที่มีคุณภาพสูง และเป็นไปตาม Australian Standard สามารถใช้กับระยะแปได้ถึง 1.5 เมตร (ขึ้นกับรูปลอนของเมทัลชีทด้วย )

4. ความหนา 0.48 (BMT) เหมาะสำหรับงานมาตรฐานที่ต้องการความแข็งแรง และความกว้าง ของแป มากเป็นพิเศษ สามารถใช้ได้กับระยะแป ถึง 2.5 เมตร (ขึ้นกับรูปลอนของเมทัลชีทด้วย )


2. การเคลือบผิวโลหะ (Coating Mass)

  ชั้นเคลือบโลหะผสมอลูมิเนียมกับสังกะสี มีสัญลักษณ์ที่ใช้ ส่วนใหญ่ คือ AZ ซึ่งเป็น Australian Standard แบ่ง ชนิดตามน้ำหนักของ โลหะที่เคลือบด้วย เช่น AZ70, AZ100, AZ150 เช่น AZ150 หมายถึงเหล็กเคลือบโลหะผสมอลูมิเนียมกับสังกะสี ทั้ง 2 ด้าน มีน้ำหนักของโลหะที่เคลือบ 150 กรัมต่อตารางเมตร ข้อดี ของปริมาณโลหะเคลือบที่มากคือสามารถ ป้องกันกันการกัดกร่อนได้ดีกว่าปริมาณชั้นเคลือบต่ำ ดังนั้นควรมีการตรวจดู ปริมาณชั้นเคลือบที่ถูกต้องกับ กับตัวเลข ที่ติดกับแผ่นหลังคา (Branding) หรือยืนยันจาก ใบรับรองคุณภาพสินค้า (Test Certificate)



ประเภทของสีที่ใช้ในงาน หลังคาเหล็ก Metal Sheet แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ


1.สี Polyester แบบที่ไม่มีสีรองพื้น ความหนาทั่วไป คือ 12 microns มีราคาถูก ความทนทานต่ำ เนื่องจาก เป็นสีที่ไม่มีสีรองพื้น (Primer) ที่ช่วยในการป้องกัน การเกิดสนิม และป้องกันแสง UV


2. สี Polyester แบบมีสีรองพื้น ประเภท epoxy และ สีชั้นบน ประเภท Polyester ความหนาสี หลากหลาย 12- 25 microns มีราคา ปานกลาง ถึงสูง แต่ความหนาสีที่ได้รับมาตรฐานและยอมรับในงาน หลังคาเหล็ก - Metal Sheet ของ Australia และ USA คือ ที่ 25 microns สามารถป้องกันการซีดจางของสีได้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี เนื่องจากประกอบด้วยสีที่มีคุณภาพ และชั้นของสีรองพื้นที่ช่วยเพิ่มการปกป้องการเกิดสนิม และแสง UV


3.สี PVDF หรือสี Kynar500 เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานของสีเป็นพิเศษ มีราคาสูง



** ในส่วนของผลิตภัณฑ์ Zincalume หรือที่เรียกว่า สีธรรมชาตินั้น เป็นสีที่เกิดมาจากการเคลือบโลหะ 55%Al-Zn อลูมิเนียมและสังกะสี นำมาเคลือบ เรซิน ชนิดใส (Clear Acrylic Resin) ซึ่งไม่ใช่เป็นสีที่มาจากการเคลือบสีอีกครั้งหนึ่ง สามารถป้องกันการซีดจางของสีได้ไม่ต่ำกว่า 20 ปี

ความแข็งแรงของแผ่นหลังคาเคลือบ (Strength Grade)

หลังคาเหล็กเคลือบ - Metalsheet ทุกแผ่น ต้องผลิตจาก เหล็กกำลังสูง (High Tensile) G550 ที่มี ค่า Yield Strength ไม่ต่ำกว่า 550 Mpa ( Mege Pascal ) เท่านั้นจึงจะ มีการใช้งานได้ดี ไม่ยุบตัว สามารถเดินขึ้นหลังคาเพื่อ ซ่อมแซมได้

ไม่ควรใช้หลังคา – Metalsheet ที่ผลิตมาจาก เหล็กความแข็งทั่วไปเช่นเกรด SGCC หรือ G300 ซึ่งเหมาะ สำหรับงานแผ่นครอบ หรือ Flashing เท่านั้น


ที่มา : เว็บไซต์ บริษัท K.C.METAL SHEET


รู้บ้างเป็นบางเรื่อง

ซื้อหลังคาเมทัลชีสต้องถามถึงการรับประกันเรื่องสีครับ เพราะถ้ายี่ห้อไม่ดีสีแป๊ปเดียวก็ซีดยอมจ่ายเพิ่ม 5-20 บาท ต่อตารางเมตร น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าครับ

หลังคาเมทัลชีท

เขาเรียกว่าหลังคาเมทัลชีท

Page : 1
Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view